หนึ่งในความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่เจ้าของปลาทำคือการเปลี่ยนน้ำทั้งหมดของถัง สิ่งนี้สามารถทำลายล้างได้เนื่องจากระดับแบคทีเรียสามารถกำจัดออกได้ แบคทีเรียเปลี่ยนของเสียจากปลาและสลายอาหารเป็นไนเตรตซึ่งมีความเป็นพิษต่ำ หากระดับของไนเตรทเพิ่มขึ้นในตู้ปลาของคุณปลาของคุณอาจได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อและเชื้อรา ในเวลาเดียวกันถ้าคุณเปลี่ยนน้ำทั้งหมดในถังในเวลาเดียวกันคุณสามารถเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทั้งหมดของสัตว์เลี้ยงของคุณ ทางออกที่ดีที่สุดคือการเจือจาง เปลี่ยนน้ำเป็นประจำเพื่อให้ปลาของคุณแข็งแรง
ขั้นตอนที่ 1
เติมถังด้วยน้ำประปาที่จะใช้ในการเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา เตรียมล่วงหน้าหนึ่งวัน กฎทั่วไปคือนำออกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำในถัง ขนาดถังที่พบมากที่สุดคือ 40 แกลลอนในกรณีนี้ควรลบออกประมาณ 8 แกลลอน สิ่งนี้สามารถลดได้ถึง 5 แกลลอนเพื่อให้ง่ายขึ้นเนื่องจากถังมักจะบรรจุ 5 แกลลอน
ขั้นตอนที่ 2
เพิ่มเครื่องกรองน้ำประปาลงในถัง ชนิดของเครื่องปรับอากาศที่คุณใช้ขึ้นอยู่กับน้ำในพื้นที่ของคุณและระดับของไนเตรตและแอมโมเนียในตู้ปลาของคุณ ทดสอบน้ำในถังและจากก๊อกน้ำของคุณด้วยชุดทดสอบน้ำเพื่อความแน่ใจ คุณอาจจำเป็นต้องใช้แอมโมเนียรีดิวเซอร์หรือบัฟเฟอร์ แต่ขอแนะนำให้ใช้เครื่อง dechlorinator เสมอ ใช้เครื่องปรับสภาพน้ำและเครื่องกำจัดกลิ่นตามที่กำหนดไว้บนภาชนะ หากคุณมีเครื่องกรองน้ำระบบ reverse osmosis dionized (RO / DI) คุณไม่จำเป็นต้องใช้ครีมปรับสภาพน้ำ
ขั้นตอนที่ 3
วางถังเปล่าและท่อถัดจากตู้ปลา
ขั้นตอนที่ 4
ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในตู้ปลาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใด ๆ เครื่องทำความร้อนสามารถแตกหากสัมผัสกับอากาศมากเกินไปเพราะพวกเขาจะพยายามให้ความร้อนที่อุณหภูมิห้อง ฟิลเตอร์สามารถแห้งได้หากระดับน้ำต่ำกว่าท่อดูด
ขั้นตอนที่ 5
วางปลายด้านหนึ่งของท่อลงในตู้ปลาและเริ่มการดูดโดยการดูดที่ปลายอีกด้านของหลอดเหมือนฟาง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลายของคุณอยู่ต่ำกว่าจุดสิ้นสุดในถังเพื่อให้น้ำจะถูกดึงลงไปในถัง ให้แน่ใจว่าได้ดูน้ำที่ไหลลงท่อเพื่อหลีกเลี่ยงการใด ๆ ในปากของคุณ ก่อนที่น้ำจะเข้าปากให้วางท่อในถังเปล่า
ขั้นตอนที่ 6
กำจัดขยะมูลฝอยภายในตู้ปลาโดยการดูดก้อนกรวดเบา ๆ ด้วยท่อเพื่อรับเศษที่ตกลงมา ใช้ปลายท่อภายในถังเพื่อทำสิ่งนี้
ขั้นตอนที่ 7
เมื่อถังใกล้เต็มแล้วให้ถอดท่อออกจากตู้ปลา
ขั้นตอนที่ 8
เทน้ำที่เตรียมไว้ลงในถัง
ขั้นตอนที่ 9
เสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าใด ๆ ที่ไม่ได้เสียบปลั๊กในขั้นตอนที่ 4